เทศน์เช้า

กฐินวัดป่ามหาบัว ญาณสัมปันโน

๒๙ ต.ค. ๒๕๕๙

 

เทศน์กฐิน วัดป่ามหาบัว ญาณสัมปันโน วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่ามหาบัว ญาณสัมปันโน ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี

 

ตั้งใจฟังเทศน์เนาะ ฟังเทศน์ เทศน์ว่าวันนี้เรามาทอดกฐินไง วันนี้จะเป็นวันทอดกฐินของวัดป่ามหาบัว ญาณสัมปันโน การทอดกฐินเพื่อบุญกุศลนะแต่ตอนนี้ประเทศชาติกำลังเศร้าโศกไง ในหลวงท่านสวรรคต ถ้าในหลวงท่านสวรรคตนะ ตอนนี้ประเทศไทยไว้ทุกข์ มันเป็นทุกข์ของประเทศไทยไง ประเทศไทยมีความทุกข์ ถ้ามีความทุกข์อย่างนี้ เราจะมาทอดกฐิน เพราะทอดกฐิน ทางรัฐบาลเขาไม่ให้มีงานรื่นเริง แต่เขาให้มีงานเทศกาลบุญ ถ้าเทศกาลบุญ เราจะทำบุญกุศลน่ะ เราจะทำบุญกุศลแม้แต่ในหลวงท่านสวรรคตไปแล้ว ท่านสร้างคุณงามความดีไว้มาก แต่ประเทศชาติยังต้องดำเนินการต่อไป ชีวิตยังต้องเดินต่อไปไงถ้าชีวิตยังเดินต่อไป

คนเราเกิดมา เกิด แก่เจ็บ ตาย เวลาเกิด แก่ เจ็บ ตายเวลาเกิด วันเวลามันกลืนกินชีวิตของคนไปทั้งนั้น ถ้าชีวิตของคน คนที่มีอำนาจวาสนาการเกิดเป็นคนมีคุณค่ามากๆเพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เกิดเป็นมนุษย์ ถ้าการเกิดเป็นมนุษย์ คนคิดบวก คิดบวกคิดถึงบุญกุศลของตน ถ้าคิดถึงบุญกุศลของตนมันมีความรู้สึกนึกคิดอยากจะทำคุณงามความดีไง

ถ้าคุณงามความดีของโลก ทางโลกเขาทำคุณงามความดีของเขา เขามีน้ำใจต่อกัน นั่นเป็นความดีของโลกเขา แต่ความดีของหัวใจไง ความดีของธรรม ถ้าความดีของธรรมการเกิด แก่ เจ็บตาย อะไรพาเกิดอวิชชาในหัวใจของคนมันพาเกิด ถ้าอวิชชาในหัวใจของคนมันพาเกิด เรามาค้นคว้า เราจะมีอำนาจวาสนาเข้าไปรื้อค้นในใจของเรา ถ้าคนจะมีอำนาจวาสนารื้อค้นในใจของตน คนต้องมีจิตใจละเอียด ถ้าคนมีจิตใจละเอียด มันคิดนี่ไง มันคิดถึงการเสียสละๆ ถ้าทางโลกเขาเห็นการเสียสละเป็นคนที่เสียเปรียบคนที่ได้ประโยชน์ๆ การได้ประโยชน์อย่างนั้น ถ้าได้ประโยชน์แบบโลก แบบโลก ถ้าเป็นธรรมาภิบาลมันก็ยังสะอาดบริสุทธิ์ไง

แต่ถ้าเป็นทางธรรมล่ะทางธรรม การเสียสละของเราเราจะทอดกฐินกันนะ ถ้าเราจะมาทอดกฐินกันมันต้องมีอะไรมันต้องมีพระจำพรรษาครบสงฆ์ก่อน ถ้าพระจำพรรษาครบสงฆ์ถ้าพระจำพรรษาครบสงฆ์แล้วพระอยู่ในพรรษาครบสงฆ์ครบ ๑พรรษา ออกไตรมาสแล้วเขาจะมีกรานกฐินกรานกฐินนี้เป็นพุทธานุญาตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาถ้าจะมีศาสนาต้องมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน ถ้ามีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดที่ไหน

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาเกิดนะ สร้างอำนาจวาสนาเป็นพระโพธิสัตว์ๆ มา เวลาเกิด เกิดที่สวนลุมพินีวันเกิดในป่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดในป่า ครองเรือนอยู่ มีสามเณรราหุล

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะออกบวชๆคำว่า “ออกบวช” นะ เพราะอยู่ในทางโลก ไปเที่ยวสวนเห็นคนเกิดคนแก่ คนเจ็บคนตาย ถ้าเราเป็นใช่ไหม เราเป็นกษัตริย์ใช่ไหม เราเป็นกษัตริย์ เราทำคุณงามความดีของเรา เราก็ต้องเกิด แก่ เจ็บตายอย่างนี้เหมือนกัน เวลามันกลืนกินสัตว์โลกไปทั้งนั้นเวลามันกลืนกินสัตว์โลกไปทั้งนั้น ท่านถึงสร้างอำนาจวาสนามาท่านถึงพยายามหาทางออกของท่าน ท่านพยายามแสวงหาทางออกของท่าน

เวลาท่านจะหาทางออกของท่าน ท่านออกบวช ไปเที่ยวสวนเห็นคนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนตาย เห็นสมณะ ความทางออกๆ นั้นเป็นทางสมณะนี้จะเป็นทางออกได้ท่านถึงขวนขวาย ท่านถึงออกบวชออกบวชค้นคว้าอยู่ ๖ ปี ค้นคว้าในใจของตนค้นคว้ากับเจ้าลัทธิต่างๆค้นคว้ามาขนาดไหนมันก็ไม่ใช่ทางๆ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ ตรัสรู้อยู่ที่โคนต้นโพธิ์นั้น

เวลาโคนต้นโพธิ์นั้น ตรัสรู้ที่โคนต้นโพธิ์นั้นแต่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ตรัสรู้ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอาศัยโคนต้นโพธิ์นั้นอาศัยป่านั้นเป็นที่ค้นคว้า เป็นชัยภูมิการฝึกฝนใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปรินิพพานปรินิพพานในป่าป่าเขามันเป็นของคู่เคียงกับศาสนา ศาสนาจะยั่งยืนได้ศาสนาจะยั่งยืนได้มันต้องมีชัยภูมิในการค้นคว้า ศาสนาเจริญได้ เจริญที่ไหน

ถ้าเจริญในทางปริยัติ ในทางการศึกษาศึกษามาแล้วก็งงๆ เวลาศึกษามาแล้วในปริยัติองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนปริยัติปฏิบัติ ปฏิเวธสอนถึงปริยัติสอนถึงการศึกษาคนจะเจริญได้ต้องมีการศึกษาศึกษาแล้วต้องประพฤติปฏิบัติศึกษาแล้วค้นคว้า การศึกษานี้ศึกษามาให้ค้นคว้าในหัวใจของตนไงถ้าค้นคว้าในหัวใจของตน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค้นคว้าๆ ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

บุพเพนิวาสานุสติญาณเข้าไปในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าระลึกถึงอดีตชาติๆ ไป ตั้งแต่อดีตชาติมันเห็นหมดนี่คือสมบัติๆสมบัติที่เรามาทำกันอยู่นี่สมบัติคือบุญกุศลที่มาทำกันอยู่นี่ จิตใจเจตนาอันนั้นมันเป็นคนทำ บุญกุศลอันนั้นมันซับลงไปที่ใจนั้นซับลงไปที่ใจนั้น๔ อสงไขย ๘อสงไขย ๑๖อสงไขย สร้างสมบุญญาธิการมาอย่างนั้นสร้างสมบุญญาธิการมาอย่างนั้นเวลาค้นคว้ามันถึงมีอำนาจวาสนาบารมีไงขณะเข้าไปบุพเพนิวาสานุสติญาณ ถ้าประพฤติปฏิบัติไม่ถึงที่สุดมันเป็นจุตูปปาตญาณเวลาเข้าไปมันยังต้องเกิดต่อไปยังมีอนาคตไงเกิด แก่ เจ็บ ตายไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย มันเกิดแล้ว แล้วมันยังมีอนาคตต่อไปๆ

เวลาเกิดเกิดมาจากอดีตมาเป็นปัจจุบันนี้ก็เพลิดเพลินกับชีวิตนี้ไป เวลาอนาคต เวลาตายไป มันก็ยังต่อเนื่องกันไปดึงกลับมาๆเวลาจะเกิดมรรคเกิดผลขึ้นมา เกิดอาสวักขยญาณในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มันเกิดที่ไหน มันเกิดในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นไหม การทำบุญกุศลก็ทำบุญกุศลเพื่อเหตุนี้ไงทำบุญกุศลขึ้นมาให้จิตใจเรามีอำนาจวาสนาบารมี เราเห็นความดีที่ละเอียดลึกซึ้งเราไม่เห็นความดีที่เป็นวัตถุ เราไม่เห็นความดีที่เป็นโลกธรรม ๘เสื่อมลาภ มีลาภเสื่อมลาภ มียศถาบรรดาศักดิ์มันของชั่วคราวทั้งนั้น กาลเวลามันกลืนกินไปหมด แต่ถ้าทำคุณงามความดี เราเสียสละเสียสละอย่างนี้มันเสียสละเพื่อหัวใจดวงนั้นไง

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา อาสวักขยญาณไง ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาอันนั้นแล้วมีความสุขวิมุตติสุขๆสุขในศาสนาไงถ้าสุขเรื่องธรรมะเรื่องธรรมแล้วมันเป็นความสุขส่วนตน เป็นความสุขในใจของตน ถ้าเป็นความสุขในใจของตน แล้วตนคำว่า “ตน” ทุกคนรักตน เขาคดโกง เขาติฉินนินทากัน แต่ในหัวใจของเราลังเลสงสัยความลังเลสงสัยความเคลือบแคลงใจ ธรรมะมันจะเข้าไปแยกแยะของมันในหัวใจถ้ามันเป็นสัจจะเป็นความจริง ถ้ามันแยกแยะความจริงอย่างนี้ขึ้นมาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงเสวยวิมุตติสุข

คำว่า“เสวยวิมุตติสุข” เสวยวิมุตติสุขที่ไหน เสวยวิมุตติสุขในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ต้องให้ใครรับประกัน ไม่ต้องให้ใครการันตี ไม่ต้องให้ใครรับรอง ไม่ต้องให้ใครเข้ามายุ่งมันเป็นในดวงใจดวงนั้นเพราะดวงใจดวงนั้นเวลาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะก็ดวงใจดวงนั้นเป็นคนไปเกิดดวงใจดวงนั้นน่ะดวงใจดวงนั้นมันไปเกิด มันเหมือนของสาธารณะ แต่จริงๆ แล้วมันมีมันมีสติมีปัญญาของเรารักษา ถ้ารักษาได้รักษาเป็น รักษาได้รักษาเป็น เราจะมาทำคุณงามความดีกัน เราจะมาทอดกฐินกันไง ถ้ามาทอดกฐิน ทอดกฐินเพราะอะไรล่ะทอดกฐินเพราะว่าในหัวใจของตน เพราะตนทำความดีของตน ทำความดีของตน แล้วทำความดีของตน ถ้ามันไม่มีเหตุให้ทำ มันทำอย่างไร

ธรรมทั้งหลายมาแต่เหตุมันต้องมีเหตุสิถ้ามันมีเหตุ มันมีพระจำพรรษาแล้วพระนี้มาจากไหน พระนี้ก็เป็นพุทธานุญาตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระมาจำพรรษา มาจำพรรษาในป่าในเขา มาทำไม ก็มาเพื่อฝึกหัดตนไง ฝึกหัดตนๆ น่ะ

พระก็มีงานของพระ พระก็มีหน้าที่ของพระพระก็ประพฤติปฏิบัติของพระถ้าพระประพฤติปฏิบัติของพระนะ เราเห็นคุณงามความดีอันนั้น เราเป็นฆราวาส เราเป็นฆราวาส เราเห็นคุณงามความดีนั้น เราถึงส่งเสริมไง

การส่งเสริม เราทำคุณงามความดีในใจของเรา แต่มันก็ส่งเสริม ส่งเสริมศาสนา ส่งเสริมความมั่นคงของศาสนา ถ้าความมั่นคงของศาสนา ถ้ามีคนที่คุ้มครองดูแล คนที่คุ้มครองดูแลทำให้เจริญงอกงามขึ้นมาเห็นไหม ถ้ามันไม่มีคนคุ้มครองดูแล ต่างคนต่างอยู่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาด้วยพระองค์เอง ตรัสรู้เองโดยชอบตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ตรัสรู้ด้วยตนเอง ตรัสรู้เองโดยชอบโดยชอบธรรมเพราะอำนาจวาสนาบารมีอย่างนั้นไง พวกเรามันสาวกสาวกะได้ยินได้ฟังศาสนามีอยู่แล้วศาสนาวางไว้อยู่แล้ว เรายังออกนอกลู่นอกทางกันไง

ถ้าเราจะเข้ามาในทางๆเราทำในทาง แต่ทำบุญกุศลทำคุณงามความดี มีแต่คนติฉินนินทาไปทั้งนั้นน่ะ เขาก็จะชักนำไปทางของเขาการชักนำถ้ามันทางของกิเลสไงกิเลสเป็นใหญ่ๆโลกเป็นใหญ่ความคิด คิดถึงโลก โลกเป็นใหญ่ทั้งนั้นน่ะ

แต่ถ้าเป็นธรรมๆ ล่ะ เป็นธรรมมันเป็นธรรมตรงไหนล่ะเป็นธรรมมันอยู่ที่เจตนานะ มันอยู่ที่ความรู้สึกนึกคิดในหัวใจของเรานะ ไอ้เรื่องวัตถุสิ่งของนั้นมันเป็นของนอกกายเป็นของปลายเหตุ ถ้าของปลายเหตุ จะมีมากมีน้อยขนาดไหน ถ้ามันไม่มีใครคิดเสียสละมันเสียสละไม่ได้หรอก ของมันก็เป็นของเท่านั้นน่ะ

แต่ถ้ามันเป็นความจริงๆมันเกิดจากหัวใจดวงนี้ ถ้าเกิดจากหัวใจดวงนี้ เราเกิดเป็นคน เกิดเป็นคนเป็นผู้ที่มีอำนาจวาสนา มีอำนาจวาสนาจริงๆ เพราะคนดูสิ สรรพสิ่งในโลกนี้ใครเป็นคนทำ มนุษย์ทั้งนั้น มนุษย์เป็นคนทำ แล้วมนุษย์ทำขึ้นมา มนุษย์ก็มาหลงสิ่งที่ตัวเองสร้างมา สร้างสมมา ของที่มนุษย์สร้างมา มนุษย์ก็หลงใหลกัน

แต่เวลาเป็นความจริงๆเวลาทำศีลสมาธิ ปัญญามันของในหัวใจของสัตว์โลก เราทำกันไม่ได้ แล้วทำได้ก็ไม่มีใครเห็น แต่มีครูบาอาจารย์ท่านรู้ท่านรู้ของท่านท่านรู้ความจริงของท่าน ถ้าความจริงของท่าน ท่านทำของท่านมาเป็นประโยชน์อย่างนั้น นี่เหมือนกันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดในป่าตรัสรู้ในป่าปรินิพพานในป่าไง นี่พูดถึงว่าพระปฏิบัติ

ทีนี้เราปฏิบัติ เราก็มาในป่ากันไงมนุษย์เกิดมา ป่าเป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ ป่าเป็นที่ฟอกอากาศ ป่าเป็นที่ให้สิ่งสำคัญกับชีวิตทั้งนั้นน่ะ แต่ถ้าทางโลกเขาแสวงหา เขาต้องการประโยชน์ของเขา นี่พูดถึงการเกิดไง การเกิดของคนนะ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กันกรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กันนะ เกิดมั่งมีศรีสุข เกิดคนทุกข์ คนจนคนยากไร้ ไอ้นี่มันเป็นเวรเป็นกรรมของคน ถ้าเป็นเวรเป็นกรรมของคนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรื่องกรรม

รัฐบาลก็พยายามจะทำให้เสมอภาครัฐบาลก็พยายามส่งเสริมส่งเสริมให้คนมีอาชีพ ส่งเสริมให้คนมีหน้าที่การงาน นั่นก็เป็นการส่งเสริม นั่นก็เป็นคุณงามความดีอันหนึ่ง แต่เรื่องของกรรมๆ มันให้ผลมากนัก ส่งเสริมขนาดไหนมันก็ขาดตกบกพร่องไปตลอดแหละถ้าเรื่องของกรรมมันให้ผลของมันแต่เราก็ทำของเราไง

เราจะบอกว่า ถ้าเราเป็นธรรมๆ เป็นธรรมก็ให้เสมอภาคสิ เป็นธรรมก็ให้เสมอกันสิ

ทุกคนอยากให้เสมอภาคทั้งนั้นน่ะแม้แต่พระอรหันต์นะ พระอรหันต์เป็นพระอรหันต์เสมอกันโดยคุณธรรมแตกต่างกันด้วยอำนาจวาสนา ถ้าการแตกต่างกันด้วยอำนาจวาสนาอย่างนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ท่านทำของท่านมา พระสีวลีท่านเป็นหัวหน้าทำบุญๆ มาตลอด พอมาชาติสุดท้ายเป็นพระสีวลี เป็นพระที่มีลาภสักการะมากที่สุด เพราะนั่นก็เป็นการทำมา ท่านทำของท่านมาทั้งนั้น

นี่เหมือนกัน เราก็มาทำของเรา เราจะมาทอดกฐินของเรา แต่ทอดกฐินของเราตอนนี้มันเป็นที่ประเทศที่เขาไว้ทุกข์ ทุกข์ของประเทศชาตินะ เวลาในหลวงท่านสอน สอนถึงเศรษฐกิจพอเพียง การเศรษฐกิจพอเพียงก็คือการประหยัดมัธยัสถ์การประหยัดมัธยัสถ์ต้องมีความขยันหมั่นเพียร ถ้าเศรษฐกิจพอเพียงมันต้องมีความขยัน มีความหมั่นเพียรของท่าน นี้ในหลวงสอนนะแล้วในหลวงก็บอก จะทำให้คนทุกคนดีเสมอกันไม่ได้ แต่ต้องให้คนที่เป็นคนดีต่างหากเป็นผู้คุ้มครองดูแลประเทศชาติไง

จะทำให้ทุกคนดีเสมอกันมันเป็นไปไม่ได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้เพราะอะไรล่ะ เพราะคนทำมามันแตกต่างกัน แต่ในหลวงก็พยายามๆ แล้วท่านพยายามทั้งชีวิตของท่านน่ะท่านก็เป็นเจ้าอยู่หัวนะ ท่านเป็นคนดีคนหนึ่งนะท่านสร้างให้ประเทศชาติของเรามั่นคงประเทศชาติของเรามั่นคงเพื่อประโยชน์กับเรา

นี่ท่านก็สวรรคตไปแล้วถ้าท่านสวรรคตไปแล้ว ประเทศชาติถึงต้องไว้ทุกข์ มันต้องมีเหตุไง ประเทศชาติไว้ทุกข์นะทุกข์ของประเทศเลย แต่เวลาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมวินัยไว้ให้พระๆ พระต้องปฏิบัติตามธรรมตามวินัย ถ้าปฏิบัติตามธรรมวินัย แล้วพระเท่านั้นใช่ไหมที่จะประพฤติปฏิบัติดีเท่านั้น

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอบโต้กับมาร พญามารมันมาดลใจนะมาดลใจว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าธรรมะนี้ประเสริฐมากนิพพานมีความสุขมาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ก็นิพพานไปสิ มีความสุขก็พยายามแสวงหาความสุขให้มากขึ้นๆมายุ่งอะไรกับโลกนี้ล่ะ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “มารเอย เมื่อใดภิกษุภิกษุณี อุบาสกอุบาสิกาของเรายังไม่เข้มแข็ง...” ยังไม่เข้มแข็งคือมันยังโง่ มันไม่มีจิตใจที่มั่นคงมันไม่มีจิตใจแยกผิดแยกถูกได้ไง ท่านบอกว่า “...เรายังไม่นิพพาน” ท่านถึงวางธรรมวินัยๆเพราะมันละเอียดลึกซึ้งไงมันเป็นเรื่องของความรู้สึก

เวลาในหลวงท่านสวรรคตไป เวลาคนที่เขาไปคารวะศพของในหลวง ฝนตกไปทั่วเลย ทำไมเขาไม่หนีล่ะทำไมเขาไม่หนีเขาบอกว่าเข้าไปแล้วก็จะเข้าไปในราชวังไม่ได้แต่ก็ขอมาอยู่ใกล้ๆ ขอมาอยู่ใกล้ๆ ฝนตกแดดออก เขาไม่หนีทั้งนั้นน่ะ เขามีน้ำใจ เขาคิดถึงทำอะไรก็ได้เพื่อเป็นประโยชน์ๆในหลวงสอนมาอย่างไร สิ่งต่างๆที่เขาเกิดขึ้นมาเขาบอกว่าเขาจะไปทำความดีเพื่อในหลวง เขาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาเพื่อในหลวง เพื่อในหลวงๆ นี่คืออะไรล่ะ เพราะว่าเขาระลึกถึงคุณงามความดีไง จิตใจของคนเวลามันระลึกคุณงามความดี สิ่งที่ระลึกถึงสิ่งที่ดีๆไง ท่านถึงสอนให้ประหยัด สอนให้มัธยัสถ์ สอนให้สามัคคี สอนให้รักกันในหลวงไม่ได้สอนให้รักในหลวงเลย

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมมันจะเกิดในดวงใจดวงนั้นดวงใจดวงนั้นมันจะมีคุณธรรมในใจดวงนั้น ถ้าดวงใจดวงนั้นมีคุณธรรมในใจดวงนั้น ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมภิกษุอยู่ที่แว่นแคว้นที่กันดาร ที่ห่างไกล ถ้าประพฤติปฏิบัติตามที่เราพูดปฏิบัติตามที่เราสั่งสอน เหมือนอยู่ใกล้เราเหมือนกอดเราไว้เลย ภิกษุอยู่กับเรา ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ทำตามมันเหมือนอยู่ห่างไกลๆ นี่ไงถ้าเป็นวัตถุ วัตถุมันอยู่ข้างนอกแต่ถ้าเป็นเรื่องของหัวใจ เรื่องของความรู้สึกนึกคิดนี้สำคัญมาก ถ้าความรู้สึกนึกคิดสำคัญมาก

เวลาในหลวงท่านสอนของท่านท่านสวรรคตไปแล้ว สิ่งที่สวรรคตไปแล้วสิ่งที่เหลือไว้มันจะเหลือไว้ในความทรงจำของเรา ในความทรงจำที่ได้เกิดร่วมนะ ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเขาเรียกสหชาติ ใครได้เกิดร่วมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีบุญกุศลมาก

เวลาเราทำบุญกุศลกันในปัจจุบันนี้ทุกคนบอกทำบุญกุศลแล้วจะขอให้ไปเกิดร่วมกับพระศรีอริยเมตไตรย พระศรีอริยเมตไตรยจะมาเกิดเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้เป็นองค์ที่ ๕ แล้วเกิดแล้วจะปฏิบัติง่ายรู้ง่าย ปฏิบัติง่ายรู้ง่าย การปฏิบัติง่ายหรือปฏิบัติยากมันก็ตรัสรู้อริยสัจอันเดียวกัน อริยสัจมีหนึ่งเดียว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นองค์ที่ ๔ ก็ตรัสรู้อริยสัจเรื่องนี้

อริยสัจคืออะไร ทุกข์เหตุให้เกิดทุกข์ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ แต่การสร้างอำนาจวาสนามาของพระศรีอริยเมตไตรยท่านสร้างของท่านมามาก๔ อสงไขย ๘อสงไขย ๑๖อสงไขย การสร้างมากสร้างน้อย การสร้างยิ่งสร้างมากมันยิ่งจะมีสติปัญญา ยิ่งมีอำนาจวาสนาบารมีการรื้อค้นอันนั้น ถ้าการรื้อค้นอันนั้นมันถึงจะปฏิบัติรอดปฏิบัติง่าย แต่ของเราถ้าจะเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องสร้างบุญญาธิการขึ้นมาให้เสมอกันถึงจะเกิดสหชาติได้

ฉะนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเขาเรียกว่าเกิดสหชาติ ใครเกิดมาร่วมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ชี้ค้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้เล็งญาณ พุทธกิจ ๕เช้าขึ้นมาเล็งญาณก่อนว่าใครมีอำนาจวาสนาแล้วอายุขัยเขาสั้น ไปเอาคนนั้นก่อน ต้องมีอำนาจวาสนานะถ้าไม่มีอำนาจวาสนา มันพูดไม่รู้เรื่อง พูดคนละประเด็นเดียวกัน พูดเหมือนกัน แต่ตีความแตกต่างกัน

แต่ถ้าคนมีอำนาจวาสนานะ แม้แต่ไม่ต้องพูด พระสารีบุตรไปเห็นพระอัสสชิเดินบิณฑบาตอยู่ ศึกษามากับสัญชัยๆ มาตลอด เขาสั่งสอนขนาดไหนปัญญามันก็รู้เท่าคิดได้ตลอด มันก็คิดของมันไงแต่มันไม่มีทางออก มันสงสัยๆ นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่แต่มันไม่มีเหตุมีผลไง เห็นพระอัสสชิเดินบิณฑบาตอยู่ กิริยามาสงบเรียบร้อย มันน่าเคารพบูชา นี่คนมีปัญญาๆ แค่เห็นการเดิน การเคลื่อนไหว มันยังเคารพศรัทธาตามพระอัสสชิไป “ท่านบวชกับใคร”

พระอัสสชิเป็นพระอรหันต์“เราเพิ่งบวชใหม่เราไม่มีความรู้มาก”

“ถ้าบวชใหม่หรือบวชนานหรือบวชเร็วมีความรู้ขนาดไหนก็บอกแค่นั้นเรื่องที่จะใช้ปัญญาเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้า เป็นเรื่องของพระสารีบุตรเอง”

“องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน เย ธมฺมาฯ ธรรมทั้งหลายมาแต่เหตุถ้าจะดับต้องไปดับที่เหตุนั้น”

สัญชัยไม่เคยสอน ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ มันสิ้นสุดที่กระบวนการของมัน แต่มันไม่มีเหตุ ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีการดับต้นเหตุไม่มีการดับที่เกิด เวลาพระสารีบุตรใช้ปัญญาตามไปเป็นพระโสดาบันๆ

นี่พูดถึงถ้าอำนาจวาสนามี มันมองออกมันเข้าใจ มันรู้ได้อยู่ที่มุมมองของตน ดูสิ ความรู้สึกนึกคิดของสังคมเรามันแตกต่างมันหลากหลายเพราะว่าเขาทำมาๆ มันเป็นประวัติศาสตร์ มันเป็นอดีตที่เราแก้ไขไม่ได้ เขามีมุมมอง เขามีความรู้สึกนึกคิดแบบนั้น ถ้าเขามีมุมมอง เขามีความรู้สึกนึกคิดแบบนั้น

ในหลวงบอกว่าต้องให้คนดีเป็นผู้ปกครอง จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ ไม่มีใครมีความสามารถจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีเท่ากันเสมอกันแต่เราต้องให้คนดีเป็นผู้ปกครอง คนดีเป็นผู้ที่คุ้มครองจะได้สังคมที่ร่มเย็นเป็นสุขไง

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าใครปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมธรรมนั้นจะสถิตในหัวใจดวงนั้นถ้าธรรมนั้นสถิตในหัวใจดวงนั้นเราจะต้องประพฤติปฏิบัติตามความเป็นจริงๆ ของเราเพื่อประโยชน์กับเราๆ ไงประโยชน์กับเราเห็นไหม เราทำ

ตอนนี้เมืองไทยไว้ทุกข์นะ ประเทศชาติไว้ทุกข์ มันทุกข์ของประเทศชาติเลยล่ะ แต่ประเทศชาติไว้ทุกข์เพราะระลึกถึงบุญคุณของในหลวง ระลึกถึงบุญคุณของกษัตริย์ที่ปกครองคุ้มครองดูแลให้ประเทศชาติเราร่มเย็นเป็นสุข ให้ชีวิตของเราไม่โดนเขาเบียดเบียนเพราะมันมีกฎหมายบังคับใช้ได้ ถ้าประเทศชาติล้มเหลว มันบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ถ้าบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ใครที่มีกำลังมากกว่ามันก็รังแกผู้ที่กำลังอ่อนกว่า มันรังแกมันทำลายเขาไปทั้งนั้นน่ะแต่เพราะอะไรเพราะว่ามีนิติรัฐมีองค์ในหลวงที่เป็นหลักอยู่ เราถึงร่มเย็นเป็นสุขกันมา ๗๐ ปี ตอนนี้จะเปลี่ยนแผ่นดิน แผ่นดินกำลังจะเปลี่ยนแปลงแต่เปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมันก็จะทำให้ประเทศชาติร่มเย็นเป็นสุขมากขึ้น

ฉะนั้น เรามาทอดกฐินๆในระหว่างที่ประเทศชาติไว้ทุกข์ แต่บุญกุศลนี้เราทำเพื่อเราเราทำเพื่อเรา ดูสิเวลาวันเฉลิมๆเราทำบุญเพื่อในหลวง เราทำบุญเพื่อในหลวง ทุกคนทำบุญกุศลเพื่ออุทิศในหลวง แต่เป็นคุณงามความดีของผู้กระทำนั้น ถ้าผู้กระทำนั้นไม่มีสิ่งใดจะอุทิศ จะเอาอะไรไปอุทิศไง

เวลาวิญญาณาหารอาหาร ๔ ในวัฏฏะ กำเนิด ๔อาหาร ๔ กวฬิงการาหารอาหารที่เราได้กินตอนเช้าเขาเรียกว่าอาหารเป็นคำข้าวอาหารเทวดาอาหารนี้เป็นวิญญาณาหารอาหารบนพรหมนี่ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหารอาหารของวัฏฏะที่การสื่อสารกัน

เวลาเขาไปเกิดเป็นเทวดา วิญญาณาหารๆ เราก็นึกว่าเราคิดเอาเองวิญญาณคือความรู้สึกนึกคิดวิญญาณ เห็นไหม รูป เวทนาสัญญา สังขารวิญญาณ สัญญาก็ปรุงแต่งขึ้นมาเอง...ขี้โกง มันคิดได้ตอนนี้ไงเวลามันจะตายมันคิดไม่ได้เวลาคนใกล้ตายมันกลัวตายมันจะไปคิดอะไรแล้วมันคิดสิ่งที่มันไม่มีสิ่งที่สัญญาในหัวใจไม่มีสิ่งที่มันทำมา มันคิดไม่ออกมันคิดไม่เป็น มันคิดไม่ได้

จิตวิญญาณนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เราถึงจินตนาการเรื่องสวรรค์ได้จินตนาการเรื่องพรหมได้จินตนาการเรื่องนรกได้ มันเลยมีข้อมูล เลยกลัวไงกลัวผีๆ อยู่ไงฉะนั้น จิตใจทุกดวงใจ จิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ จิตนี้ไม่เคยสัมผัสนิพพาน จิตนี้ถึงระลึกถึงนิพพานไม่ได้ ระลึกถึงไม่เป็น มันไม่ได้ มันเลยจินตนาการกันผิดๆ ถูกๆ อยู่นั่นไง

ถ้ามันเป็นความจริงในใจ ถ้าของไม่รู้ไม่เห็นมันนึกไม่ได้แต่ถ้ามันเป็นความจริง ที่เรามาสร้างบุญกุศลกันอยู่นี่ เราจะมาสร้างบุญกุศลเราจะมาทอดกฐิน ทอดกฐินเพราะมีสงฆ์จำพรรษาครบสงฆ์สงฆ์จำพรรษาครบ ๑ พรรษา ๑ไตรมาส ๑ไตรมาสแล้วเวลาในสมัยพุทธกาล ออกพรรษาแล้วได้รับกรรมฐานจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าป่าเข้าเขาไปประพฤติปฏิบัติจนมีข้อสงสัย มีสิ่งใดที่มันเป็นปมในใจ ออกพรรษาแล้วจะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มันหน้าฝนอย่างนี้ เวลามันไป ไปเปียกๆแฉะๆ กัน ผ้าขาดรุ่งริ่งมา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงบอกว่าให้อยู่จำพรรษาแล้วออกพรรษาแล้วให้รับกฐินก่อน ทำให้มันรอบคอบ เสร็จแล้วถึงไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงมีกฐินนี้ขึ้นมาไง

เห็นไหมฝนตกๆ เวลาวันนี้ชาติในปัจจุบันนี้ประเทศชาติไว้ทุกข์ แม้แต่สวรรค์ยังรับรู้นะมีความโศกสลดมาด้วยกัน ฝนตกๆ แล้วเวลาฝนตก เมื่อคืนเห็นไหม เมื่อคืนใครนอนตากฝนใครนอนต่างๆให้ระลึกย้อนกลับที่สนามหลวง สนามหลวงเขายืนตากฝน เขารอเฝ้าเขายืนได้ เขาไม่หนี

โดยปกติฝนตก ทุกคนหลบหมด ทำไมเขาอยู่ได้ล่ะ เขาอยู่ได้เพราะจิตใจเขามั่นคงไง นี่ก็เหมือนกันเวลาเมื่อคืนฝนตก เรานอนตากฝน เรามีจิตใจที่มั่นคง สิ่งใดมันเป็นเรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อยมาก จิตใจนี้ยิ่งใหญ่มากจิตใจที่มันมีหลักมีเกณฑ์ของมันมันมีจุดยืนของมัน มันยิ่งใหญ่มาก แล้วจิตใจของคนทำความสงบของใจ มันนุ่มนวล เวลาจิตมันมีความสงบนะมันนุ่มนวลของมัน มันมีพลังงานของมัน มันมีปัญญาของมันเพราะมันมีของมัน สัมมาสมาธิถึงยกขึ้นสู่วิปัสสนา

จิตของคนไม่มีสัมมาสมาธิ จะบอกว่าดูสัตว์เดรัจฉานสิ สัตว์เดรัจฉานมันเป็นสัตว์เพราะมันไม่มีศีลไม่มีธรรมมันถึงเป็นสัตว์ ทั้งๆ ที่มันมีคุณงามความดีนะ สัตว์มันรักลูกของมันมันดูฝูงของมันมันทำความดีของมัน มันก็เป็นสัตว์ เพราะมันเป็นสัตว์ไง

แต่เราเป็นมนุษย์ ถ้าเราเป็นมนุษย์เรามีสมอง ถ้าเรามีสมองของเรา แล้วเรามีสติมีปัญญาของเรามีสติมีปัญญานะมันคัดมันเลือกมันแยกมันแยะไง ถามตัวเองสิว่าอะไรมันสุขจริง สุขเทียม สุขของโลกนี้เขาหาได้ทั้งนั้นน่ะ สุขในโลกนี้หาได้แต่สุขในศาสนาสัมมาสมาธิ ถ้ามันสงบของมันลง ถ้าจิตมันสงบแล้วมันมีสติมันมีปัญญาของมันแล้วถ้ามันมีกำลังของมัน ถ้ายกขึ้นสู่ นั่นน่ะปฏิบัติในแนวทางสติปัฏฐาน ๔ ในแนวทางสติปัฏฐาน ๔ มันต้องมีสัมมาสมาธิคือจิตตั้งมั่น

จิตตั้งมั่นมันเป็นอะไร จิตเป็นสากลนะ ทุกศาสนาบอกว่าสอนทำสมาธิ ทุกศาสนาเขาจะอวดอ้างว่าเขาก็ทำสมาธิ แต่ทำสมาธิแบบนั้นมันเป็นมิจฉา มันเป็นมิจฉาเพราะอะไร เพราะสมาธิเป็นสมาธิอยู่กับสมาธิไงแต่ในพระพุทธศาสนา สัมมาสมาธิเป็นบาทเป็นฐาน สมถกรรมฐานยกขึ้นสู่วิปัสสนากรรมฐาน จะยกขึ้นสู่วิปัสสนากรรมฐานมันต้องมีจิตใจของเรา เห็นไหม

เราจะเกิดเป็นคนเพราะอะไร เราจะเกิดเป็นคนเพราะเรามีกรรม แล้วมีพ่อมีแม่ มีดีเอ็นเอของพ่อของแม่ มีไข่ มีสเปิร์ม แล้วมีจิตปฏิสนธิจิตมันถึงเกิด มันถึงปฏิสนธิในไข่ ในครรภ์ ในน้ำครำในโอปปาติกะมันถึงเกิดเป็นคน

สัมมาสมาธิ สัมมาสมาธิมันมีบาทมีฐานของมัน มีสมถกรรมฐานมันยกขึ้นสู่วิปัสสนากรรมฐาน มันถึงเป็นปฏิบัติในแนวทางสติปัฏฐาน ๔ เพราะมันมีพ่อมีแม่ มีที่มาที่ไป

แต่เวลาปฏิบัติของเขาปฏิบัติแนวทางสติปัฏฐาน ๔แนวทางสติปัฏฐาน ๔ มันนึกเอาเองทั้งนั้นเลย มันนึกเอาเองทั้งนั้นมันเป็นบุคคลไร้สัญชาติ มันเป็นบุคคลที่คุ้มครองตัวเองไม่ได้ ศาลสั่งว่าเป็นบุคคลที่ช่วยตัวเองไม่ได้มันจะทำอะไรแล้วก็บอกว่าปฏิบัติในแนวทางสติปัฏฐาน ๔

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนว่าให้ศึกษามีภาคปริยัติ แล้วให้ฝึกหัดปฏิบัติเวลาปฏิบัติไปไอ้ที่ว่าแนวทางสติปัฏฐาน ๔แนวทางสติปัฏฐาน ๔ มันสังเวชมันสังเวชแบบพระสารีบุตรไปฟังพระอัสสชิน่ะฟังสัญชัยมาๆ นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่แล้วสัญชัยรับประกันเลยว่า “มีความรู้เหมือนเรา มีปัญญาเหมือนเรา เป็นอาจารย์ได้เหมือนเรา”

พระสารีบุตรไม่เอาเพราะว่ามันมีความลังเล มันมีความสงสัยอยู่ลึกๆ ไอ้สงสัยลึกๆ นั่นน่ะมันพาเกิด ไอ้สงสัยลึกๆนั่นแหละมันเวียนว่ายตายเกิดเพราะตัวจิต ตัวไม่ตาย ไอ้ตัวลึกๆ นั่นน่ะ ตัวจิตมันไม่ตาย ไอ้ความคิดเกิดดับความคิดเราอารมณ์เรามันเกิดดับทั้งนั้นน่ะ

ฉะนั้นแนวทางสติปัฏฐาน ๔ เราจะทำความสงบของใจเข้ามา ถ้าใจสงบเข้ามาเราจะรู้จักของเรา เราจะรู้จะเห็นของเรา

เราจะบอกว่าการปฏิบัติธรรม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายกไว้ให้กับเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก รู้เฉพาะตนในใจของตน แล้วตน ตนถ้ามีอำนาจวาสนา ที่บำเพ็ญมาเป็นพระโพธิสัตว์ ๔อสงไขย ๘อสงไขย ๑๖อสงไขย เพราะมันมีความมั่นคงอย่างนั้น สิ่งใดที่ความสงสัยสิ่งใด ดูสิ เจ้าชายสิทธัตถะ อาฬารดาบส อุทกดาบส “เธอมีความรู้เหมือนเรา มีความเห็นเหมือนเรา สอนได้เหมือนเรา เข้าสมาบัติ ๖สมาบัติ ๘ ได้”

เจ้าชายสิทธัตถะปฏิเสธหมดเลย ไม่เอาๆๆๆ เพราะอะไรเพราะมันสงสัยๆไง เวลาเจ้าชายสิทธัตถะมาตรัสรู้มาตรัสรู้เองโดยชอบในใจของเจ้าชายสิทธัตถะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นไหม

นี่ก็เหมือนกัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ในป่าวางธรรมวินัยนี้ไว้พระเราบวชมาแล้ว พระป่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์ใหญ่ของเรา แล้วก็ลูกศิษย์ครูบาอาจารย์ที่ตามๆกันมา ครูบาอาจารย์ท่านมารื้อมาค้นของท่าน ท่านวางแนวทางของท่าน วางข้อวัตรปฏิบัติของท่านเราจะมาประพฤติปฏิบัติกัน เรามาอยู่ป่าอยู่เขาไม่ใช่มาเพื่อโอ้เพื่ออวดมาเพื่อยึดครองมาเพื่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสถานที่มันเป็นสมบัติของชาติ

ตอนนี้ชาติไว้ทุกข์ๆ นะชาติมีความทุกข์มาก ชาติมีความโศกสลดกับองค์ในหลวงที่ท่านสวรรคตไป ชาติทั้งชาติไว้ทุกข์แล้วเราจะมาสนุกครึกครื้นรื่นเริงกันอยู่ไม่ได้ เราจะต้องตื่นตัว เราจะต้องตื่นตัวของเรา พระที่มาประพฤติปฏิบัติก็พยายามมาค้นคว้า มาขวนขวายเพื่อเอาความรู้จริงในใจของตน

เราเป็นชาวพุทธ เราได้ข่าวได้คราวว่าออกพรรษาแล้วพระจำพรรษาแล้วจะมีกฐิน เราจะมาทอดกฐินกัน ทอดกฐินเพื่อส่งเสริม ส่งเสริมเจตนาของเรา ส่งเสริมหัวใจของเราให้เข้มแข็งให้เชิดชู ให้มีหลักมีเกณฑ์มากขึ้น แล้วส่งเสริมเชิดชู มีบุญกุศลนี้ทอดกฐินแล้วอุทิศส่วนกุศลๆ

ตอนนี้ชาติกำลังไว้ทุกข์ชาติกำลังมีความทุกข์อยู่นี่เราจะมีน้ำใจต่อกัน เราจะมีความระลึกถึงต่อกันเราทอดกฐินนี้ทอดกฐินเพื่อชาติ ศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์และเพื่อตัวเราเอวัง